เนื้อหา
เป็นหลักคำสอนที่จัดอยู่ในสมุทัย (ธรรมที่ควรละ) หมายถึง หนทางหรือช่องทางแห่งความเสื่อมและความพินาศของทรัพย์สมบัติและตนเอง พระพุทธศาสนาได้แสดงหนทางแห่งความเสื่อม และความพินาศไว้ 6 ประการ เรียกว่า อบายมุข 6 ได้แก่
![]()
1. การดื่มน้ำเมา การดื่มน้ำเมา แห่งอบายมุข 6 หมายถึง การดื่มน้ำเมาที่หมักโดยยังไม่กลั่น ได้แก่ เบียร์ ไวน์ เป็นต้น และการดื่มน้ำเมาที่กลั่นแล้ว ได้แก่ สุรา และยังหมายรวมถึงการเสพสารเสพติดอื่นๆ เช่น ยาบ้า กัญชา เฮโรอีน เป็นต้น
โทษการดื่มน้ำเมา
1. ติดน้ำเมา ติดสารเสพติด เพราะสารที่มีอยู่ในสิ่งเหล่านี้ออกฤทธิ์ให้ร่างกายเกิดการเสพติด หรืออยากที่จะดื่มหรือเสพอีกครั้ง
2. ขาดปัญญา ขาดสติ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ นำไปสู่การทะเลาะวิวาท เพราะฤทธิ์ของสารเหล่านี้ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทหลายด้าน อาทิ กดประสาท กระตุ้นประสาท หลอนประสาท เป็นต้น 3. เสียทรัพย์ในการซื้อจ่าย เพราะต้องแลกมาด้วยเงินทองในการซื้อ
3. เกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคตับ โรคประสาทหลอน เพราะสารในสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการทำงานของร่างกาย
4. ผู้อื่นรังเกียจ และนินทา เพราะเมื่อเมาเป็นนิจมักแสดงพฤติกรรมอันน่ารังเกียจทำให้คนอื่นติฉินนินทาในภายหลัง
5. เสียการงาน เพราะเมื่อเมาแล้วจะไม่มีสติหรือไม่มีสมาธิในการทำงานได้เหมือนคนทั่วไป ฯลฯ

![]()
2. การเที่ยวกลางคืน การเที่ยวกลางคืน แห่งอบายมุข 6 หมายถึง การออกนอกบ้านในยามวิกาลในแหล่งบันเทิง เพื่อสนองต่อความสุขทางกาย และทางใจ อาทิ ร้านคาราโอเกะ ร้านเหล้า ร้านเบียร์ เป็นต้น
โทษการเที่ยวกลางคืน
1. หลงใหลการเที่ยวเล่นยามราตรี เพราะการบันเทิงต่างๆในยามราตรีมักยั่วยวนจิตใจให้ลุ่มหลงเป็นนิจ
2. เสียทรัพย์ เสียค่าใช้จ่าย เพราะการออกเที่ยวกลางคืนมักต้องจ่ายค่าเดินทาง ค่าบริการ และจ่ายทรัพย์ตนไปเพื่อให้ได้มาต่อการเที่ยวชมในสิ่งนั้นๆ
3. มักพบคนพาล และมักถูกหลอกลวง เพราะแหล่งเที่ยวกลางคืนมักมีคนพาล คนไม่ดีรายล้อม จึงมีโอกาสต้องพบปะ และสนทนาให้คุ้นเคย ส่วนสิ่งที่จะตามมา คือ โอกาสการถูกหลอกเพื่อหวังตัณหาในเรือนร่าง ในทรัพย์สิน เป็นต้น
4. มักเกิดการทะเลาะวิวาท เกิดศัตรูได้ง่าย เพราะการเที่ยวกลางคืนมักไปเป็นกลุ่ม มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก เสพสิ่งมึนเมา และพร้อมที่จะขัดแย้งกับคนอื่นหรือกลุ่มอื่นได้ง่าย
5. มักประพฤติผิดในกาม ล่วงในกามได้ง่าย เพราะการเที่ยวกลางคืนย่อมอยู่ห่างไกลจากครอบครัว สามีหรือภรรยา หากถูกยั่วยุด้วยตัณหาทางกามารมณ์แล้วมักนำพาไปสู่การล่วงในกามได้ง่าย
![]()
3. การเที่ยวดูการละเล่น การเที่ยวดูการละเล่น แห่งอบายมุข 6 หมายถึง การเที่ยวออกดูการแสดง การบันเทิงต่างๆ ทั้งในเวลากลางวัน และยามวิกาล อบายมุขในข้อนี้ มิได้ห้ามมิให้เที่ยวดูเลย แต่พึงให้เที่ยวดูตามกิจที่เหมาะสม เพื่อยังให้เกิดประโยชน์แก่ตนบนพื้นฐานแห่งศีลธรรมเป็นหลัก ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันตนมิให้มีโอกาสเกี่ยวข้องกับอบายมุขในข้ออื่นๆ
โทษการเที่ยวดูการละเล่น
1. หลงใหลในการละเล่น เพราะการละเล่นเป็นสิ่งยั่วยวนใจให้ลุ่มหลงได้ง่าย
2. เสียทรัพย์ เสียค่าใช้จ่าย เพราะการชมการละเล่นมักต้องเสียทรัพย์แลกมาก่อน หรือต้องเสียทรัพย์เพื่อการอื่น เพราะตนเดินทาง เพราะตนเข้าชม เพราะตนเกิดความหิว เป็นต้น
3. มักเจอคนพาล มักมีผู้อื่นมาหลอกลวง เพราะผู้ที่เข้าชมการละเล่นบางคนที่หวังในทรัพย์ หรือประโยชน์อื่นจากผู้คนชมมักแฝงตัวเข้ามาชมด้วย
4. ผู้คนนินทา เพราะคนที่ชอบไปโน่นไปนี่เพื่อชมการละเล่น โดยไม่ทำกิจอันสำคัญของตนมักทำให้กิจของตนเสื่อม หรือมีความเสียหายจนทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน และกล่าวติเตียน กล่าวนินทาในภายหลัง ฯลฯ

![]()
4. การเป็นนักเลงการพนัน หมายถึง การชอบเล่นการพนันขันต่อมีได้เสีย เช่น เล่นไพ่ เล่นหวย จนถึงขั้นที่เรียกว่า ผีพนันเข้าสิง การเป็นนักเลงการพนันมีโทษดังนี้
4.1 เป็นหนทางของการก่อเวรซึ่งกันและกัน
4.2 ทำให้เสียทรัพย์สิน
4.3 ไม่มีใครไว้วางใจ
4.4 ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย
4.5 ไม่มีใครอยากแต่งงานด้วย
4.6 ทำให้เป็นคนลุ่มหลง เล่นแล้วไม่หยุด

![]()
5. การเกียจคร้านทำการงาน หมายถึง การไม่ขยันทำงานตามเวลาและหน้าที่รับผิดชอบ ปล่อยการงานให้คั่งค้าง เหมือน ดินพอกหางหมู คนเกียจคร้านการงาน ได้ชื่อว่าเป็น คนไม่เอาไหน จะได้รับโทษดังนี้
โทษการเกียจคร้านทำการงาน
5.1 หาความเจริญรุ่งเรืองไม่ได้
5.2 ย่อมเสียประโยชน์ของตนไปอย่างน่าเสียดาย
5.3 ทรัพย์สินเงินทองใหม่ก็ไม่เกิด ที่มีอยู่ก็มีแต่จะหมดไป
5.4 เป็นคนที่หมดค่าของความเป็นคน ทั้งนี้เพราะ ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน

![]()
6. การคบคนชั่วเป็นมิตร หมายถึง การคบคนชั่วหรือคนพาลเป็นมิตร แห่งอบายมุข 6 หมายถึง การยอมรับในความเป็นมิตรจากบุคคลอื่นที่ตนอาจแยกแยะได้หรือแยกแยะไม่ได้ว่าเขาเป็นคนเช่นไร คนชั่วหรือคนพาลในที่นี้ ได้แก่ คนพาลการพนัน คนพาลนักเลงต่อยตี คนพาลฉ้อโกงหลอกลวง คนพาลเจ้าชู้ และคนพาลขี้เมา เป็นต้น
โทษการคบคนชั่วเป็นมิตร
1. ปลูกฝังความชั่วในตน เป็นนักเลงในทุกด้าน เพราะเมื่อยอมรับเป็นมิตรในคนพาลแล้วย่อมที่จะได้รับการเรียนรู้ การฝึกฝนในวิถีแห่งคนพาล จนนำมาประพฤติเป็นกิจของตนได้ง่าย
2. วงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย เพราะเมื่อเป็นเช่นคนพาลแล้วย่อมกระทำเช่นคนพาลจนนำมาสู่ความเสื่อมเสียในวงศ์ตระกูล
3. ครอบครัวแตกแยก เพราะคนพาลมักไม่เป็นที่ชื่นชมของคนอื่นในครอบครัว หรือหากนำวิถีแห่งคนพาลมาใช้ในครอบครัว ก็ย่อมทำให้เกิดความขัดแย้งต่อผู้อื่นได้ง่าย
4. ถูกหลอกลวงได้ง่าย เมื่อยอมรับในมิตรของคนพาลแล้ว ย่อมต้องพบปะให้เกิดความคุ้นเคย คนพาลเหล่านั้นอาจหวังหลอกลวงในทรัพย์ หรือประโยชน์จากเราเฉกเช่นคนพาลทั่วไป
5. ผู้คนนินทา ไม่มีผู้คบหา เพราะเมื่อคบคนพาลหรือนำวิธีแห่งคนพาลมาประพฤติแล้วมักทำให้ผู้อื่นรังเกียจ ไม่กล้าคบหา


http://thaihealthlife.com/อบายมุข6/
http://oknation.nationtv.tv/blog/Leaning/2007/11/03/entry-3